[มาแล้ว]สินเชื่อบ้าน ธอส. 2558 – 2559 ดอกเบี้ยเริ่ม 3.5% วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 30 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมวงเงิน 10,000 ล้านบาท สนับสนุนมาตรการการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล และส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนโดยการพิจารณาสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) สูงสุดถึง 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่าย ขึ้น เงื่อนไขของมาตรการนี้กำหนดอัตราดอกเบี้ยปีแรกเท่ากับ 3.50% สำหรับผู้มีรายได้สุทธิต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท หรือวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี ติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของภาครัฐ และเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้ในวงเงินกู้ที่สูงขึ้นเพียงพอต่อการซื้อบ้าน ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของธนาคาร ธอส.จึงได้เตรียมวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท จัดทำ “มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง” โดยให้กู้สำหรับผู้ที่มีรายได้สุทธิไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน หรือ วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทธนาคารจะใช้เงื่อนไขผ่อนปรนในการพิจารณาสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) เพิ่มเป็น 40-50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน
วัตถุประสงค์ให้กู้ : เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด และเพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
อัตราดอกเบี้ย :
✪ ปีแรกเท่ากับ 3.50% ต่อปี
✪ ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี
✪ ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยดังนี้
► กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR – 1.00% ต่อปี
► กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR – 0.75% ต่อปี
*ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ 6.75% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน : ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี
“มาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ที่มีวินัยการเงินดีให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมให้ดีขึ้นอีกด้วย” นางอังคณากล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
***สามารถสอบถามความเป็นไปได้ของการขอสินเชื่อ วงเงินสินเชื่อ ค่างวดผ่อนบ้าน กับ อนันต์มันนี่ ก่อนก็ได้นะจ๊ะ เพียงแจ้งวงเงินกู้บ้าน อายุ รายได้ ภาระผ่อนที่มี ประวัติเครดิตที่ผ่านมา อนันต์มันนี่ยินดีให้คำปรึกษาจ๊ะ***
แฟนมีเงินเดือนอยู่ที่20000บาทต้นๆต้องการกู้ซื้อบ้านพร้อมที่ดิน5ไร่สามารถกู้ด้ายยอดเท่ารัยและมีโอกาดกู้ด้ายไหมคะ
ขอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาเรื่องกำลังผ่อน ด้วยครับ
1.อายุ แฟน และอายุของเพ็ญวดี
2.เงินเดือนแฟน ยอดจริง เท่าไหร่ ครับ และคุณเพ็ญวดี ได้ทำงานประจำหรือไม่ครับ ถ้าทำขอทราบยอดเงินเดือนรวมต่อเดือน ด้วยครับ
3.ภาระผ่อน ที่มีของแต่ละท่าน ต่อเดือน ครับ
4.เงินเดือนรับผ่านบัญชี หรือรับสด ครับ
5.บ้านและที่ดินที่จะซื้อ เป็นโฉนด หรือเป็น นส3 หรือ นส3ก หรือ สปก หรืออย่างอื่นครับ
สวัสดีค่ะ ชื่อเล็กนะคะ พอดีอยากซื้อบ้านมือ 2 ราคา ประมาณ 1.3 ล้าน เงินเดือนอยุ่ที่ 14850 บาท ปลอดหนี้ค่ะ อยากทราบว่า เงินเดือนเท่านี้พอจะกู้ผ่านมั้ยค่ะ
ขอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ
1. อายุ
2.มีผู้กู้ร่วม เช่น แฟน หรือสามี หรือไม่ครับ ถ้ามีขอทราบ ฐานเงินเดือน รายได้สุทธิ และภาระผ่อนที่มี ด้วยครับ
ขอถามหน่อยคะ คือเราทำงานเสิรมสวยมีเงินเข้าบัญชีตลอดทุกเดือน ประมาณ20000-25000 แฟนรับราชการหักเงินกู้สหกรณ์เหลือประมาณ10000กว่า แต่ต้องการกู้เงินซื้อบ้านราคา1500000 จะสามารถกู้ได้ไหมคะ เพราะเราไม่ติดยูโรคะไม่มีหนี้คะ
ขอสอบถามข้อมูล้เพิ่มเติมด้วยครับ
+อายุ ของทั้ง 2 ท่าน
+รายได้ของแฟน หลังจากหักภาระเงินกู้สหกรณ์แล้ว ไม่ทราบว่ายังมีภาระผ่อนอะไรอย่างอื่นอีกไหมครับ ถ้ามียอดเท่าไหร่ต่อเดือน ครับ
+งานร้านเสริมสวย เป็นเจ้าของกิจการเองหรือไม่ครับ ถ้าเป็นกิจการส่วนตัวไม่ทราบว่าได้จดทะเบียนร้านหรือไม่ครับ
จะซื้อบ้านมือสองค่ะราคา2.5ล้านจะใช้บริษัทเป็นผู้กู้ต้องเตรียมอะไรมั้งค้ะถึงมี%ผ่่าน
กรณีซื้อบ้าน ในนามนิติบุคล “บริษัท” แอดมินเองก็ไม่แน่ใจนะครับ
ถ้ากรณีปกติ ในการขอสินเชื่อในรูปบริษัท ก็เตรียมเอกสารประมาณนี้ครับ
-หนังสือรับรอง (บริษัท)
-หนังสือบริคณฑ์สนธิ
-รายงานการประชุม มติ ให้กู้ซื้อบ้าน
-งบการเงิน (ที่ยื่นเสียภาษี) ย้อนหลัง 3 ปี
-งบการเงิน ภายใน จริงๆของกิจการ (กรณีงบไม่ตรงกับที่ใช้ยื่นเสียภาษี) ย้อนหลัง 1 – 3 ปี
-สเตทเม้นท์บัญชีธนาคารที่หมุนเวียนเงินของกิจการย้อนหลัง 1 ปี
-เอกสาร สำเนาบัตร ปชช.+ทบบ. ของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท ครับ
รบกวนสอบถามค่ะ กรณีที่เราจะขอกู้เงินมาสร้างบ้าน ใช้โฉนดที่ดินที่กรุงเทพฯ แต่เอาเงินไปสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด ได้ไหมคะ เพราะว่าที่ดินที่ต่างจังหวัดไม่มีโฉนด ค่ะ ทางธนาคารจะให้หรือเปล่าคะ
+เกรงว่าจะทำอย่างนั้นไม่ได้ครับ กรณีกู้เพื่อสร้าง เงินที่ได้ไปต้องเอาไปสร้างบ้านบนที่ดินแปลงที่จะเอามาเป็นหลักประกันกับธนาคาร หนะครับ
*แนวทางที่พอจะทำได้ นะครับ ถ้าที่ดินที่กรุงเทพ ที่ตามแจ้งมานั้น เป็นที่ดินพร้อมบ้าน หรือเป็นพวก ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม อยู่แล้ว และไม่มีภาระไม่ติดจำนอง อาจจะเอา ที่ดิน+บ้าน นั้นไปขอสินเชื่อเอนกประสงค์ ประเภท สินเชื่อบ้านแลกเงิน นะครับ ธนาคารเอกชนหลายๆเจ้าก็มีสินเชื่อลักษณะนี้ครับ
By AnanMoney
อ่านของเพื่อนๆที่โพส หลายคน ก้อมีใกล้เคียงบ้าง แต่ไม่ตรงเท่าไร ที่มีบ้างประเด่น จึงอยากเรียนถาม
++ตอนนนี้ผมทำงาน บ.เอกชน เงินเดือน 50,000 บาท ( วิศวกร )เงินเดือนผ่าน ธนาคาร โดยการโอน ไม่มีการหักประกันสังคม / ไม่หักภาษี เข้าเต็มทุกเดือน 50,000 บาท ก่อนนี้มีบัตรกดเงินสด แต่ผมติดล่าช้า เกิน 90 วัน จนมีการเคลียกัน และชำระปิดบัญชีแล้ว เมื่อ 27/5/2016 ( 4 เดือน ) มีเอกสารการชำระแล้ว 2 เดือนที่แล้ว ผมลองไป
ยื่นชื้อรถยนต์ 1 คัน –ไม่ผ่าน และเช็คกับเต้นบ้าง จนหมดโอกาสแล้ว มาเดือน กันยายน ก็ขอลองอีกครั้ง ปรากฏว่า
ผ่านครับ ( ก็ งงๆ ) รู็สึกชื้อใจนิดๆ คราวนี้อยากได้บ้าน เพราะผมไม่มีภาระอะไร ผ่อนรถ 12,000 บาท ก็ยังมีวงเงิน
อีก 38,000 บาท จากเงินเดือน 50,000 ยาท —คำถามที่สถาบันการเงินถาม บ่อยๆ คือ มีการหักประกันสังคมไหม / ภาษีไหม ดูเหมือนว่าเรา ทำ บัญชี ทั้งที่ มีสถานที่ทำงาน บ.ที่ทำงาน ที่ตรวจสอบได้ จากที่เล่ามา คุณว่าผมพอมีโอกาสไหมครับ
*ลองประเมินเบื้องต้น เฉพาะจากข้อมูลที่แจ้ง แนะนำแยกที่ละประเด็นนะครับ
+สินเชื่อรถยนต์ ค่อนข้างจะยืดหยุ่นพอสมควรอยู่ครับ ทำให้ในครั้งล่าสุด สินเชื่อรถยนต์ได้รับการอนุมัติ แต่สำหรับสินเชื่อบ้านเรื่องประวัติเครดิตจะสำคัญมาก เพราะวงเงินสูงและระยะเวลาผ่อนนาน กรณีเคยติดหรือค้างชำระสินเชื่อใดๆ ประวัติเครดิตในส่วนนี้จะอยู่ในรายงานเครดิตบูโร นาน 3ปี (คือนับจากปัจจุบันย้อนหลังไป 3 ปีครับ) ถึงแม้เราจะปิดไปแล้วแต่ประวัติในส่วนนั้นก็ยังแสดงอยู่ครับ กรณีจะให้ประวัติในส่วนนี้หายไปเลยคือ นับจากวันที่ชำระสินเชื่อนั้นไป 3 ปีครับ กรณีที่ติดหรือค้างเกิน 90 วัน ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าควรให้เวลาผ่านไปไม่น้อยกว่า 2 ปี ครับ แล้วค่อยลองยื่นเรื่องขอสินเชื่อบ้าน ครับ อาจจะได้ลุ้น 50:50 ครับ
+กรณีเงินเดือนไม่หักประกันสังคม และไม่หักภาษี เราอาจจะใช้เอกสารที่เรายื่นเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปีสัก2 ปีล่าสุดประกอบกับสลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน +สเตทเม้นท์ที่เงินเดือนเข้าย้อนหลัง 12 เดือน เพื่อประกอบการยื่นขอสินเชื่อครับ
ขอบคุณครับ
ด้วยความยินดีครับ
กำลังจะซื้อบ้านจะยื่นกู้กับ ธอส. สามีเป็นผู้กู้มีรายได้ประจำ 25000 บาท เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน โอนเข้าแบงค์ทุกเดือน (คือรับเป็นเงินสดแต่เอาเข้าแบงค์เอง) ติดภาระผ่อนรถ 5700 เคยมีประวัติล่าช้า ปิดมาแล้ว ประมาณ 1 ปี เช็คเครดิต บูโร มีประวัติ ดี 2 รายการ เสี ขึ้น F 1 รานการของอิออน จะพอมีโอกาสกู้ผ่านมั้ยคะ ราคาบ้าน 1,940,000 บาท หรือต้องหาผู้กู้ร่วม หากต้องใช้ผู้กู้ร่วม ไม่ใช่ญาติได้หรือไม่คะ
+กรณีเคยมีประวัติชำระล่าช้า ปิดมาแล้วแต่ยังไม่เกิน 3 ปี กรณีนี้แอดมินเองก็ไม่ชัวร์หนะครับ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางธนาคารแล้วหละครับ
*ขอทราบ อายุ ของสามี และอายุ ฐานเงินเดือน ภาระผ่อน ของคุณ ศรีสุดารัตน์ ได้ไหมครับ
สวัสดีค่ะขอสอบถามหน่อยค่ะ กรณียื่นกู้ร่วมกับมารดาเพื่อปลูกสร้างบ้านโดยชื่อแม่เป็นเจ้าของโฉนดรวมกับบ้านที่สร้างเสร็จแล้วหนึ่งหลังเป็นหลักค้ำประกันต้องการปลูกบ้านใหม่เพิ่มอีกหนึ่งหลังโดยมีการเริ่มปลูกสร้างไปประมาณ 20°/• แล้วต้องการกู้เงินเพื่อที่จะสร้างต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ ดิฉันทำงานบริษัทเอกชนเงินเดือน 3 หมื่นค่ะ รบกวนแน่นำด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
*ขอเสนอแนะ แนะนำขั้นตอน และหลักการ กรณีกู้เพื่อสร้างบ้าน ไว้เพื่อให้เตรียมตัว และใช้เป็นแนวทางนะครับ ตามนี้ครับ
+โดยหลักการ กรณีกู้สร้างบ้าน ผู้กู้จำเป็นจะต้องมีส่วนทุน เงินทุนของตัวเองบางส่วน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีสำรองประมาณ 20-40% ของมูลค่าก่อสร้างบ้าน ครับ ที่เหลือ 60-80% ค่อยกู้จากธนาคารหนะครับ (ทั้งนี้วงเงินที่ได้ต้องไม่เกินกำลังผ่อนของผู้กู้ ซึ่งปกติแล้วภาระค่างวดบ้านรวมภาระที่มีอยู่ต้องไม่เกิน 30% – 40% ของรายได้ต่อเดือน) *หรือถึงแม้ธนาคารจะให้กู้ได้ในสัดส่วนที่สูงถึง 80 – 90% ของมูลค่าก่อสร้างบ้านก็ตาม แต่สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน ทางธนาคารจะไม่ได้ให้เงินเราทีเดียวในวันที่ทำสัญญา และจำนอง หนะครับ ส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดให้เบิกเงินกู้ ตามความคืบหน้าในการก่อสร้างบ้านครับ จึงจำเป็นที่ผู้ขอกู้เพื่อสร้างบ้าน จะต้องมีส่วนทุนตัวเองบางส่วนแล้ว เพื่อใช้ในการจ้างช่าง และซื้อวัสดุมาก่อสร้างบ้านไปก่อน แล้วค่อยเบิกเงินกู้จากธนาคาร เป็นคราวๆไปครับ
……………….
เรื่องขั้นตอน :
+กรณีต้องการขอสินเชื่อ เพือสร้างบ้านบนที่ดิน ของตัวเองที่มีอยู่แล้ว จะมีขั้นตอน และเอกสารที่เพิ่มขึ้น มากกว่าการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ที่สร้างเสร็จแล้ว หนะครับ ดังนี้
1.มีแบบแปลน ของบ้านที่จะสร้าง รวมถึงใบประมาณการค่าก่อสร้าง
2.มีโฉนด (ควรจะต้องเป็นโฉนด ครับ ถ้าเป็น น.ส.3 หรือ น.ส.3ก. หรืออย่างอื่น เกรงว่าธนาคารอาจจะไม่รับ)
*โฉนดที่ดินที่จะสร้างบ้าน ควรจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ ของผู้กู้ครับ
*ตอนยื่นเรื่อง ให้สำเนาด้านหน้าและด้านหลัง ของโฉนด และให้ จนท.ธนาคารดูฉบับจริงก็พอครับ โฉนดตัวจริงค่อยให้ธนาคาร ในวันจำนอง ครับ
3.ต้องมีใบขออนุญาตปลูกสร้าง
*ผู้ขออนุญาตก่อสร้าง ควรเป็นชื่อเดียวกันกับเจ้าของโฉนดที่ดิน โดยให้ขออนุญาต จาก อบต. หรือ เทศบาล หรือ สนง.เขต ที่ที่ดินที่จะสร้างบ้านตั้งอยู่
4.มีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน/ที่พักอาศัย (ถ้ามี)
** ข้อ 1 / 2 / 3 จำเป็นต้องมี ส่วนข้อ 4 ถ้ามีก็จะดีมาก เอกสารเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการให้ธนาคารหรือบริษัทประเมิน ประเมินมูลค่า ที่ดิน(เปล่า) + ประเมินมูลค่าตัวบ้าน (ประเมินจากข้อ 1 และ 4) ครับ เพื่อจะได้ทราบว่า ที่ดิน รวมกับบ้าน เมื่อสร้างเสร็จ 100% จะมีมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งพนง.ธนาคารจะได้นำไปพิจารณาเรื่องสินเชือ รวมถึงกำหนดวงเงิน ต่อไปหนะครับ
**ขั้นตอน และการเตรียมเอกสาร เบื่องต้นจะประมาณนี้ครับ**
………………
การเบิกจ่ายเงินกู้แต่ละครั้ง
+เราก็แจ้งให้ธนาคารทราบว่าจะขอเบิกเงินกู้ ธนาคารก็จะแจ้งให้ ผู้ประเมินราคา ไปประเมินราคามูลค่างานก่อนสร้าง ก่อนทุกครั้งครับ ซึ่งการประเมินราคาแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่าย ค่าประเมิน ครับ ดังนั้นก่อนจะขอเบิกเงินกู้แต่ละครั้ง งานก็สร้างต้องมีความคืบหน้า แล้วเสร็จไปเป็นส่วนๆครับ เช่น
1.ถมดิน ลงเสาเข็ม เทคาน หล่อเสา ขึ้นโครงหลังคา เทพื้น แล้วเสร็จ ค่อยเริ่มเบิกเงินกู้ครั้งที่ 1
2.ก่อ+ฉาบผนังห้อง มุงหลังคา ใส่หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน แล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งที่ 2
3.ปูกระเบื้อง วางสายไฟ ระบบไฟ ทาสี ทำรั้วกำแพงบ้าน ฯลฯ ทุกอย่างแล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งสุดท้าย
**คร่าวๆประมาณนี้ครับ จะได้ไม่ต้อง เสียค่าประเมิน หลายรอบครับ**
…….
## สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมแนะนำติดต่อสอบถาม ปรึกษารายละเอียดกับทางธนาคารก่อนก็ได้ครับ
ปิดแบล็คลิสไปแล้วสองเดือนกว่าเงินเดือน21000มีบัตรที่ยังไม่ปิดสองพันต่อเดือนไม่มีภาระอื่นอยากได้บ้านราคาล้านสองยื่นกุ้ได้มั้ยคะ
+จากข้อมูลตามที่แจ้งมาเกรงว่าโอกาสผ่านจะน้อยหนะครับ
+กรณีตามปกติ ถ้าเคยค้างชำระ เคยชำระล่าช้า แต่ได้ชำระหนี้ปิดบัญชี หรือได้กลับมาชำระเป็นปกติ/ชำระทันงวดปกติ และผ่อนต่อไม่เคยค้าง ไม่ช้าอีกเป็นเวลามาแล้ว ไม่น้อยกว่า 1-2 ปี (ถ้าจะให้ประวัติที่เคยเสียนั้น หายไปจริงๆต้อง 3 ปี ขึ้นไป) แบบนี้การขอสินเชื่อจึงจะพอมีโอกาสผ่าน ครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ณ ตอนที่ค้าง มีระยะเวลาการค้างนานมากหรือไม่ด้วยหนะครับ
กุ้ร่วมกับสามีได้มั้ยคะสามีเงินเดือน11000รวมสวัสดิการก้อราวๆหมื่นแปดถึงสองหมื่นแฟนอายุ28ปีติดผ่อนรถเหลือสองปีเราเงินเดือนสองหมื่นนิดๆอายุ35มีผ่อนบัครแค่ใบเดียวอยากมีบ้านภายในปีนี้
+กรณีกู้ร่วม ก็จะยังติดในเรื่องของประวัติเครดิตของเราเองด้วยหนะครับ ที่จะมาเป็นอุปสรรคในการพิจารณาสินเชื่อในครั้งนี้
+ และกรณีถ้าให้แฟนกู้คนเดียว ณ ตอนนี้ก็ยังมีภาระค่างวดรถ ซึ่งถ้ารวมกับค่างวดบ้าน ภาระรวม ของแฟน (กรณีกู้คนเดียว) ก็จะสูงเกินครึ่งของฐานรายได้ โอกาสผ่านก็จะยังน้อยอยู่หนะครับ ถึงแม้จะผ่าน แอดมินคาดว่าวงเงินที่ได้ก็คงจะไม่มากครับ
*ถ้าเป็นไปได้ ควรผ่านไปไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากปิดภาระที่เคยติดแบคลิส/เครดิตบูโร ครับแล้วค่อยลองเข้าไปคุยกับธนาคารและยื่นเรื่องขอสินเชื่อครับ(กู้ร่วม) โดยระหว่างนี้ถ้ามีภาระผ่อนอะไรก็ควรผ่อนชำระให้ตรงกำหนดไม่ค้างไม่ล่าช้าครับ ซึ่งก็อาจจะมีโอกาส 50 : 50 ครับ
สำนักงานใหญ่อยู่เมืองไทย แต่มาทำงานที่สาขาเวียดนาม รับเงินเดือนเป็นเงินสดที่เวียดนาม มีสเตทเม้นท์ในเมืองไทย เงินเดือน 70,000บาทต้องการซื้อบ้านราคา4ล้านบาท ยื่นกู้แบงค์ได้ไหมคะ แล้วมีโอกาสผ่านไหม
สำหรับในกรณีนี้ “ไม่ได้ทำงานประจำในประเทศ” แอดมินไม่แน่ใจจริงๆครับ ยังไง อาจจะลองปรึกษากับทาง เพจนี้ดูนะครับผม >>https://www.facebook.com/homeloanforthai หรือชื่อเพจในเฟสบุค คือ = สินเชื่อ ธอส. เพื่อคนไทยในต่างประเทศ ครับ อาจจะได้รับคำแนะนำดีๆครับ
อยากทราบข้อมูลการกู้เงินสร้างบ้าน มีรายละเอียดอะไรบ้างค่ะ มือใหม่มาก ๆ อยากกู้เงินทำบ้านค่ะ แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจอะไรเลยค่ะ
*ขอเสนอแนะ แนะนำขั้นตอน และหลักการ กรณีกู้เพื่อสร้างบ้าน ไว้เพื่อให้เตรียมตัว และใช้เป็นแนวทางนะครับ ตามนี้ครับ
+โดยหลักการ กรณีกู้สร้างบ้าน ผู้กู้จำเป็นจะต้องมีส่วนทุน เงินทุนของตัวเองบางส่วน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีสำรองประมาณ 20-40% ของมูลค่าก่อสร้างบ้าน ครับ ที่เหลือ 60-80% ค่อยกู้จากธนาคารหนะครับ (ทั้งนี้วงเงินที่ได้ต้องไม่เกินกำลังผ่อนของผู้กู้ ซึ่งปกติแล้วภาระค่างวดบ้านรวมภาระที่มีอยู่ต้องไม่เกิน 30% – 40%ของรายได้ต่อเดือน) *หรือถึงแม้ธนาคารจะให้กู้ได้ในสัดส่วนที่สูงถึง 80 – 90% ของมูลค่าก่อสร้างบ้านก็ตาม แต่สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน ทางธนาคารจะไม่ได้ให้เงินเราทีเดียวในวันที่ทำสัญญา และจำนอง หนะครับ ส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดให้เบิกเงินกู้ ตามความคืบหน้าในการก่อสร้างบ้านครับ จึงจำเป็นที่ผู้ขอกู้เพื่อสร้างบ้าน จะต้องมีส่วนทุนตัวเองบางส่วนแล้ว เพื่อใช้ในการจ้างช่าง และซื้อวัสดุมาก่อสร้างบ้านไปก่อน แล้วค่อยเบิกเงินกู้จากธนาคาร เป็นคราวๆไปครับ
……………….
เรื่องขั้นตอน :
+กรณีต้องการขอสินเชื่อ เพือสร้างบ้านบนที่ดิน ของตัวเองที่มีอยู่แล้ว จะมีขั้นตอน และเอกสารที่เพิ่มขึ้น มากกว่าการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ที่สร้างเสร็จแล้ว หนะครับ ดังนี้
1.มีแบบแปลน ของบ้านที่จะสร้าง รวมถึงใบประมาณการค่าก่อสร้าง
2.มีโฉนด (ควรจะต้องเป็นโฉนด ครับ ถ้าเป็น น.ส.3 หรือ น.ส.3ก. หรืออย่างอื่น เกรงว่าธนาคารอาจจะไม่รับ)
*โฉนดที่ดินที่จะสร้างบ้าน ควรจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ ของผู้กู้ครับ
*ตอนยื่นเรื่อง ให้สำเนาด้านหน้าและด้านหลัง ของโฉนด และให้ จนท.ธนาคารดูฉบับจริงก็พอครับ โฉนดตัวจริงค่อยให้ธนาคาร ในวันจำนอง ครับ
3.ต้องมีใบขออนุญาตปลูกสร้าง
*ผู้ขออนุญาตก่อสร้าง ควรเป็นชื่อเดียวกันกับเจ้าของโฉนดที่ดิน โดยให้ขออนุญาต จาก อบต. หรือ เทศบาล หรือ สนง.เขต ที่ที่ดินที่จะสร้างบ้านตั้งอยู่
4.มีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน/ที่พักอาศัย (ถ้ามี)
** ข้อ 1 / 2 / 3 จำเป็นต้องมี ส่วนข้อ 4 ถ้ามีก็จะดีมาก เอกสารเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการให้ธนาคารหรือบริษัทประเมิน ประเมินมูลค่า ที่ดิน(เปล่า) + ประเมินมูลค่าตัวบ้าน (ประเมินจากข้อ 1 และ 4) ครับ เพื่อจะได้ทราบว่า ที่ดิน รวมกับบ้าน เมื่อสร้างเสร็จ 100% จะมีมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งพนง.ธนาคารจะได้นำไปพิจารณาเรื่องสินเชือ รวมถึงกำหนดวงเงิน ต่อไปหนะครับ
**ขั้นตอน และการเตรียมเอกสาร เบื่องต้นจะประมาณนี้ครับ**
………………
การเบิกจ่ายเงินกู้แต่ละครั้ง
+เราก็แจ้งให้ธนาคารทราบว่าจะขอเบิกเงินกู้ ธนาคารก็จะแจ้งให้ ผู้ประเมินราคา ไปประเมินราคามูลค่างานก่อนสร้าง ก่อนทุกครั้งครับ ซึ่งการประเมินราคาแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่าย ค่าประเมิน ครับ ดังนั้นก่อนจะขอเบิกเงินกู้แต่ละครั้ง งานก็สร้างต้องมีความคืบหน้า แล้วเสร็จไปเป็นส่วนๆครับ เช่น
1.ถมดิน ลงเสาเข็ม เทคาน หล่อเสา ขึ้นโครงหลังคา เทพื้น แล้วเสร็จ ค่อยเริ่มเบิกเงินกู้ครั้งที่ 1
2.ก่อ+ฉาบผนังห้อง มุงหลังคา ใส่หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน แล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งที่ 2
3.ปูกระเบื้อง วางสายไฟ ระบบไฟ ทาสี ทำรั้วกำแพงบ้าน ฯลฯ ทุกอย่างแล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งสุดท้าย
**คร่าวๆประมาณนี้ครับ จะได้ไม่ต้อง เสียค่าประเมิน หลายรอบครับ**
ชื่อสุกัญญาค่ะ
ขอถามหน่ยค่ะ คือปิดบัตรมาหมดแล้วได้ประมาน 1 เดือน อยากทราบว่าทำไมถึงยังกู้ไม่ได้อีกค่ะ ไหนนโยบายบอกปิดบัตรมาแล้วสามารถกู้ได้ ไม่มีภาระคะ ไม่ได้ผ่อนอรัยเลย เงินเดือน 25000/เดือนค่ะ
ส่งเรื่องไปแล้วค่ะ รอประเมิน และก็มายอกว่ายังไม่สามารถกู้ได้ แต่อีกคนบอกพอปิดบัตรมีใบมาก็กู้ได้เลยค่ะ
+คาดว่าจะเป็นเพราะว่าประวัติเครดิต ย้อนหลังไป 3 ปี ของแต่ละท่านจะไม่เหมือนกันหนะครับ
*ถ้าเคยมีประวัติการค้างชำระ แบบไม่นานมาก และค้างไม่บ่อย จะมีโอกาสมากกว่าผู้ที่เคยมีประวัติค้างชำระแบบนานเกิน 1 เดือน และค้างบ่อยๆหลายๆเดือน หนะครับ
กำลังยื่นกู้ซื้อบ้านกับธอสเจ้าหน้าที่ออกมาประเมินบ้านแล้วค่าประเมิน2,800บาทแล้วเจ้าหน้าที่ก็โทรมาสอบถามเรื่องราคาบ้านไม่ทราบว่าจะผ่านหรือเปล่าค่ะกรณีที่ออกมาประเมินแล้ว
+ยังไม่ชัวร์ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านนะครับ การประเมินราคาหลักประกัน (ที่ดิน+บ้าน) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเองครับ อาจจะไม่ผ่านก็ได้ หรืออาจจะผ่านก็ได้ ครับ
*ไม่ว่าสินเชื่อจะผ่าน หรือไม่ก็ตาม เราต้องจ่ายค่าประเมิน ก่อนเลยครับ