[มาแล้ว]สินเชื่อบ้าน ธอส. 2559 ดอกเบี้ยเริ่ม 3.25% ต่อปี “แพ็คเกจสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไตรมาส 1 ปี 2559”
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมวงเงิน 32,000 ล้านบาท จัดทำ แพ็คเกจสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไตรมาส 1 ปี 2559 เพิ่มโอกาสให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มี ที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล โดยอัตราดอกเบี้ยปีแรกต่ำสุด เริ่มต้นเพียง 3.25% – 3.50% ต่อปี ยื่นคำขอกู้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มี.ค. 2559 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 29 เม.ย. 2559
นางไลวรรณ ปองเสงี่ยม รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัย เป็นของตนเองอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ธอส. ในฐานะสถาบันการเงิน เฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจหลักในการตอบสนองนโยบายด้านที่อยู่อาศัยของภาครัฐ และเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ จึงได้จัดทำ แพ็คเกจสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไตรมาส 1 ปี 2559 ภายใต้กรอบวงเงินรวม 32,000 ล้านบาท แบ่งเป็นดังนี้
แพ็คเกจที่ 1 : สินเชื่อสำหรับลูกค้ากลุ่มบุคลากรภาครัฐและกลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝาก
✪ ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี
✪ ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี
✪ ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ อัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี
✓ กรณีซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย MRR
แพ็คเกจที่ 2 : สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป
✪ ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี
✪ ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี
✪ ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี
✓ กรณีซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย MRR
แพ็คเกจที่ 3 : สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยโครงการ FAST TRACK/ REGIONAL FAST TRACK และลูกค้ารายย่อยโครงการ POST FINANCE ที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร
✪ ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี
✪ ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี
✪ ปีที่ 3 จนถึงตลอด อายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี ลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ย MRR-0.50% ต่อปี
✓ กรณีซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ย MRR
หมายเหตุ : ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี
“แพ็คเกจสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ไตรมาส 1 ปี 2559 นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย วัตถุประสงค์การให้กู้ที่หลากหลาย อาทิ ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซมอาคาร ไถ่ถอนจำนอง ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของ ธอส.(เฉพาะกลุ่มบุคลากรภาครัฐ) และซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมมั่นใจว่าแพ็จเกจ สินเชื่อดังกล่าว จะสามารถช่วยสนับสนุนให้การปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2559 เป็นไปตามเป้าหมาย” นางไลวรรณ กล่าว
ลูกค้าที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 29 เมษายน 2559 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
***สามารถสอบถามความเป็นไปได้ของการขอสินเชื่อ วงเงินสินเชื่อ ค่างวดผ่อนบ้าน กับ อนันต์มันนี่ ก่อนก็ได้นะจ๊ะ เพียงแจ้งวงเงินกู้บ้าน อายุ รายได้ ภาระผ่อนที่มี ประวัติเครดิตที่ผ่านมา อนันต์มันนี่ยินดีให้คำปรึกษาจ๊ะ***
สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ 33 ปี ทำงานบริษัทเอกชน เงินเดือน รวมโอทีประมาณ 13000 บาท มีหนีผ่อนเฟริชช้อย เดือนละ 1000 ผ่อนเอง (และอีอ่อน 1700 น้องชายยืมบัตรไปน้องเป็นคนจ่ายเอง) มีบุตร 1 คน 4 ขวบ หย่ากับสามี อยากจะปลูกบ้านบนที่ดินของแม่ กู้ 300000 บาท จะได้ไหมค่ะ
ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้หรือไม่ครับ
+ที่ดินนั้น เป็น โฉนด หรือ นส3 หรือ นส3ก หรือ สปก หรืออย่างอื่นครับ
+ที่ดินนั้น ติดจำนองอยู่หรือไม่ครับ
+ขอทราบฐานเงินเดือน และรายได้อื่นๆ เป็น โอที หรือคอมมิสชั่น หรือเงินสวัสดิการอื่นๆ ประมาณอย่างละเท่าไหร่ครับ
ดิฉันอายุ30ปี รายได้ต่อเดือนประมาน3หมื่นจ่ายค่าห้อง 5300/เดือน อยากกู้สร้างบ้าน แต่เป็นที่ สปก มีแต่สัญญาซื้อขาย จะกู้ผ่านมั้ยคะ
สำหรับในกรณีกู้เพื่อสร้างบ้าน ที่ดินแปลงที่จะสร้างบ้านซึ่งก็คือแปลงที่ต้องนำมาจำนองเป็นหลักประกันกับธนาคารนั้น จำเป็นต้องเป็น “โฉนด” ครับ ถ้าเป็น นส3 หรือ นส3ก หรือ นส4จ หรือ สปก เกรงว่าธนาคารจะไม่รับเรื่องครับ
ขายของตลาดนัด อยากมีบ้านต้องทำงังงัยบ่างคะ
ไม่เคยทำอะไรกับการกกู่เงินเลย
กรณีกิจการส่วนตัว ค้าขาย สำหรับการขอสินเชื่อบ้าน ซึ่งมีวงเงินค่อนข้างสูง ภาระผ่อนยาวนาน จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้ที่ชัดเจน ครับ อาทิเช่น
1.มีหน้าร้าน ประจำ
2.มีทะเบียนการค้า หรือทะเบียนพาณิชย์ (กรณีร้านค้า) ซึ่งจดทะเบียนมาแล้วไม่น้อยกว่ 1 ปี
3.สเตทเม้นท์บัญชีธนาคาร ที่หมุนเวียนเงินของกิจการ อย่างน้อย 1 ปี โดยต้องมีการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะด้านรายการฝาก ควรมียอดฝากเข้าบัญชี เฉลี่ย ไม่น้อยกว่า 4 – 5 หมื่นบาท/เดือนขึ้นไป
**ทั้งนี้ภาระผ่อนที่มีอยู่(ถ้ามี) เมื่อรวมกับภาระค่างวดบ้านที่จะกู้ รวมกันแล้วไม่ควรเกิน 40 – 50% ของฐานรายได้สุทธิต่อเดือน ครับ **
—เป็นต้น—-
*สำหรับในกรณีกู้เพื่อปลูกสร้างบ้าน (บนที่ดินตัวเอง) จำเป็นต้องมี โฉนดที่ดิน (ปลอดภาระ-ไม่ติดจำนอง) และมีเงินทุนส่วนตัวไม่น้อยกว่า 30%- 40% ของมูลค่าการก่อสร้างบ้าน (ทั้งนี้เพราะกรณีกู้เพื่อสร้างบ้าน ธนาคารไม่ได้ให้วงเงินเต็ม 100% และให้เบิกจ่ายเงินกู้เป็นคราวๆไป ตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างบ้าน)
***โดยเบื้องต้นจะประมาณนี้หนะครับ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ แนะนำลองแวะเข้าไปคุย หรือสอบถาม กับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธนาคารออมสิน ดูก่อนก็ได้ครับผม ***
ตอนนี้ซื้อทาวเฮาน์มือสองต่อจากญาติแฟน ซึ่งนามสกุลเดียวกัน ในราคา 1,100,000 บาท ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2558 โดยวางเงินมัดจำไปแล้ว 500,000 บาทถ้วน และย้ายเข้าไปอยู่ โดยจ่ายผ่อนบ้านเป็น ชื่อ ของเจ้าของเดิมอยู่ (เขายังผ่อนธนาคาร ไม่หมด ) เดือนล่ะ 4,900 บาท
เคยยื่นเรื่องกู้ที่ ธนาคาร เขียว ขอกู้ 700,000 บาท โดยให้แฟนยื่นกู้คนเดียว แฟนรับเงินเดือนเป็นเงินสด ฐานเงินเดือน 22,200 บาท/เดือน และรายได้จาก OT.เดือนละ 12000 บาทขึ้นทุกเดือน มีเงินเข้าออกในบัญชีทุกเดือน แต่ไม่มีเงินออมเพราะถอนออกมาจ่ายมัดจำบ้านแล้ว 500,000 บาท
เอกสารที่ยื่น มี ครบตามที่ธนาคารเขียวเรียก แต่ผลคือไม่ผ่าน เหตุผล คือ
1.คู่สมรส คือ ตัวดิฉัน ติดบรูโร ( ดิฉันไม่ได้เป็นคนยื่นนะคะ )
2.ผู้กู้ ( แฟนดิฉัน ) ไม่เคยมีเครดิตใดๆเลย พอเช็คบรูโร สกอร์เป็น 0 ( ก็แน่สิเราจะซื้ออะไก็ใช้เงินสดทั้งนั้นนี่ จะมีบัตรเครดิตได้ไง )
ดิฉันอยากจะรบกวนสอบถามว่า
-ถ้า ดิฉันให้แฟน ยื่นเรื่องกู้คนเดียวที่ ธอส. จะมีสิทธิ์ผ่านมากน้อยแค่ไหนค่ะ
-แล้วจำเป็นไหมที่คู่สมรสติดบรูโร แล้วจะไม่ผ่าน ถ้าจำเป็นมีวิธีแก้ไขอย่างไร
-มันเกี่ยวไหมที่รับเงินเดือน เป็น เงินสด
-และเกี่ยวกันไหมกับที่แฟนไม่เคยมีบัตรเครดิตใดๆเลย เช็คแล้ว สกอร์ เป็น 0 ( ถ้าธนาคารไม่ให้โอกาสแล้วลูกค้าจะมีเครดิตได้อย่างไรกัน )
1.จากรายได้ของแฟน และถ้าไม่มีภาระอื่นอะไรหนักๆ ก็น่าจะพอผ่อนค่างวดของบ้านที่จะกู้เพียง 7 แสน ได้ เพราะค่างวดก็คงไม่ได้หนักมากนัก เพียงราวๆ 4,xxx – 5,xxx บาท/เดือนเท่านั้น จึงไม่น่าจะติดที่เรื่องกำลังผ่อน ครับ (ถ้าไม่มีภาระผ่อนอะไรหนักๆ นะครับ)
…………………
2.กรณีแฟนกู้คนเดียว ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับประวัติเครดิตของเราในฐานะภรรยา นะครับ
………………..
3.เรื่องเงินเดือนรับเป็นเงินสด ก็มีส่วนบ้างครับ แต่ไม่มากนัก เพราะถ้ามี 50 ทวี ยืนยัน + สเตทเม้นท์ย้อนหลังซัก 6 เดือน – 1 ปี ประกอบครับ แต่ทั้งนี้ เงินเดือนที่ได้ในแต่ละเดือน แนะนำให้เอาเข้าฝากในบัญชีธนาคาร ทั้งหมดก่อน แล้วก็ค่อยๆทยอยถอนใช้ตามความจำเป็น อย่าถอนออกมาทีเดียวทั้งหมด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก็จะมีสเตทเม้นท์สวยๆ สำหรับประกอบการขอสินเชื่อครับ
……………….
4.ในประเด็นเรื่อง ประวัตเครดิตบูโรเช็คแล้วเป็น “0” อันนี้แอดมินไม่แน่ใจ นะครับ ตามปกติแล้ว กรณีที่สถานะบัญชีเป็น 0 อีกสาเหตุหนึ่งจะมาจาก เคยมีภาระสินเชื่อแต่ ไม่ได้ชำระ จนเจ้าหนี้ขายหนี้เสียทิ้งไปให้บริษัทรับซื้อหนี้เสียแล้ว จึงทำให้ประวัติเครดิตบูโร มีสถานะเป็น 0 = เพราะไม่มีข้อมูล ครับ **ตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นต้นมา แฟนเคยมีภาระสินเชื่อ ผ่อนสินค้า หรือผ่อนมอไซด์ แล้วมีการค้างชำระบ้างหรือไม่ครับ ที่กู้สินเชื่อ หรือสมัครบัตรอะไรไม่ผ่าน อาจจะมาจากสาเหตุนี้ก็เป็นได้ครับ**
พ่อหนูต้องการจะกู้เงิน. ธอส. ธนาคารสงเคราะห์
ซื้อบ้านในราคา450,000พ่อหนูทำงานราชการเป็นพนักงานขับรถที่ประกันสังคมเป็นลูกจ้างประจำแต่พ่อหนูอายุ57แล้วพ่อหนูจะกู้ได้ป่าวค่ะ. .ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ
อายุ 25 ปี เงินเดือน 16380 บาท ขอกู้ ต่อเติมบ้าน 100000 บาท ค่ะ อยากทราบดอกเบี้ย รายละเอียด ขั้นตอนการขอกู้ค่ะ และ ผ่อนรายเดือนเท่ารัยค่ะ
+กรณีกู้สินเชื่อบ้าน จำเป็นต้องนำที่ดิน+บ้าน(หลังที่จะต่อเติม) มาจำนองเป็นหลักประกันกับธนาคารครับ (ที่ดินและตัวบ้าน จึงจำเป็นต้องปลอดภาระไม่ติดจำนองครับ) และที่ดิน+บ้านนั้นจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์/ชื่อของเรา หรือถ้ากรรมสิทธิ์เป็นของบิดาหรือมารดา ของเราก็ต้องให้ท่านกู้ร่วมกับเราครับ พร้อมทั้งมีเอกสารประมาณการค่าก่อสร้าง/ค่าต่อเติม จากทางผู้รับเหมามาประกอบการขอสินเชื่อด้วยครับ (และแบบแปลน ถ้ามี ครับ)
+กรณีกู้สินเชื่อบ้าน ตามปกติแล้วธนาคารจะมีกำหนดวงเงินขั้นต่ำไว้หนะครับ เช่นอาจจะกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 3 แสน – 5 แสนบาทขึ้นไป แอดมินก็ไม่แน่ใจนะครับว่าทาง ธอส. กำหนดไว้ที่เท่าไหร่ จะกู้ 1 แสน ได้หรือไม่ ไม่แน่ใจครับ แนะนำให้ลองเข้าไปสอบถามโดยตรงกับทาง ธอส. ดูก่อนนะครับ
*ถ้าได้กู้ 1 แสน ระยะเวลาผ่อนอาจจะได้ไม่นานมากนัก คาดว่าจะราวๆ 5 – 7 ปี ถ้าตามนี้ค่างวดก็น่าจะราวๆ 1 พันปลายๆ – 2 พันนิดๆ ครับ
อายุ31ปี เงินเดือนผ่านเข้าบัญชี 12,000 ไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ต้องการกู้เงินซื้อบ้าน 1,500,000 สามารถกู้ได้ไหมครับ
+จากอายุที่แจ้ง ขอปัดเศษเริ่มนับที่ 32 ปี จะผ่อนได้ราวๆ 28 ปี
+ถ้าวงเงิน 1.5 ล้านบาท ผ่อน 28 ปี ดอกเบี้ยลองคิดเผื่อๆที่ 7% ต่อปี ค่างวดจะราวๆ 10,000 – 10,200 + – ต่อเดือน ครับ
*จากรายได้ตามที่แจ้ง และจากค่างวดตามที่ประเมินได้ข้างต้น เกรงว่าภาระผ่อนจะสูงเกินไปครับ
*ตามเกณฑ์ปกติ ธอส. แบบผ่อนปรน ภาระค่างวดบ้าน (รวมภาระอื่นถ้ามี) ไม่ควรเกิน 40 – 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือนครับ ในที่นี้ลองคิดที่ภาระรวมไม่เกิน 45% ของรายได้สุทธิ จากรายได้ 12,000 ดังนั้นภาระรวมจึงไม่ควรเกิน 5,4xx ต่อเดือน ครับ วงเงินที่เหมาะสมกับกำลังผ่อนตามนี้ก็จะราวๆ 7 – 8 แสน ครับผม ค่างวด 4,8xx – 5,5xx + – ต่อเดือนครับ
ขอสอบถามค่ะ
ทำงานมา 5 ปีค่ะ เป็นข้าราชการ เงินเดือนล่าสุด 16,050 บาทค่ะกะจะทำร่วมกับ กบข. ค่ะ ถ้าร่วมค่าต่ำแหน่งและรายได้ทั้งหมด อยู่ที่ 32,000 บาท ค่ะ ต้องการเงินประมาณ 1,500,000 บาทค่ะ พอได้ไหมค่ะ มีที่ต้องส่งต่อเดือนประมาณ 10,000 บาท ค่ะ
+ไม่ทราบว่าต้องการกู้เพื่อ สร้างบ้าน หรือซื้อบ้าน ครับ
+ขอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ ครับ
– อายุ
– ภารผ่อนต่อเดือน (ถ้ามี)
อายุ 23 ปี เงินเดือน 9,000 บาท +รายได้อื่น 2,000 บาท เงินคงเหลือสุทธิ 10,300 บาท กู้ซื้อบ้าน 1,300,000 บาท ภาระหนี้สินไม่มี มีบัตรเครดิตอิออนกับยูเมะ แต่ชำระหนี้สินหมดแล้ว บ้านเป็นเทาวเฮาล์ติดกันสองชั้น สามารถกู้ได้ไหมค่ะ แล้วใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ
+ลองคำนวณค่างวด ถ้ากู้วงเงิน 1,300,000 ผ่อน 30 ปี ลองคิดดอกเบี้ยเผื่อๆไว้ที่ 7% ต่อปี ค่างวดจะตกราวๆ 8,7xx + – ต่อเดือน ครับ
*จากรายได้ตามที่แจ้ง และภาระค่างวดบ้านตามที่ประเมินได้ข้างต้น เกรงว่าภาระผ่อนจะสูงเกินไปครับ
…………………….
+ค่างวดบ้าน รวมภาระผ่อนอย่างอื่น ถ้ามี รวมแล้วไม่ควรเกิน 40 – 50% ขอรายได้สุทธิต่อเดือนครับ ในที่นี้ขอคิดที่ภาระรวมไม่เกิน 45% ต่อเดือนนะครับ จากรายได้สุทธิตามที่แจ้ง ค่างวดบ้าน (กรณีไม่มีภาระอื่นๆ) ไม่ควรเกิน 4,6xx บาท/เดือน ครับ
*จากรายได้ และกำลังผ่อนข้างต้น วงเงินที่เหมาะสมกับกำลังผ่อน และที่พอมีโอกาสเป็นไปได้ น่าจะอยู่ที่ราวๆ ไม่เกิน 7 แสนบาทครับ ค่างวดราวๆ 4,5xx – 4,7xx ต่อเดือน ครับ
*กรณีกู้คนเดียว เกรงว่าถ้าผ่าน ก้คงจะได้วงเงินไม่พอกับราคาบ้านครับ น่าจะราวๆ 7 แสน + –
……………………..
+แนะนำว่าควรมีผู้กู้ร่วมที่จะสามารถมาร่วมรับผิดชอบ ร่วมผ่อนชำระไปกับเราได้ตลอด 30 ปี มากู้ร่วมกัน ครับ เช่น แฟน หรือสามี ครับ ซึ่งถ้ามีรายได้พอๆกัน หรือรายได้มากกว่าเรา และไม่มีภาระผ่อนอะไรหนักๆ คาดว่าสินเชื่อก็มีโอกาสผ่าน มีโอกาสได้วงเงินใกล้เคียง (80% – 85%) กับราคาบ้านตามที่แจ้งครับ
ถ้าพี่ชาย ได้ไหมค่ะ
+ผู้กู้ร่วมที่ดีที่สุดคือผู้ที่จะช่วยเราผ่อนไปได้ตลอด 20 – 30 ครับ เช่น แฟน หรือสามี ครับ
+กรณีพี่ชาย กู้ร่วม ในทางปฏิบัติทำได้ครับ การกู้ร่วม ธนาคารนำรายได้ของผู้กู้ร่วมมาคำนวณกำลังผ่อนรวมกัน ซึ่งมีโอกาสได้วงเงินที่สูงขึ้นกว่าการกู้คนเดียว แต่อาจจะมีปัญหาตามมานะครับ ในเรื่องกรรมสิทธิ์ และการผ่อนชำระ ถ้าพี่ชายมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ภรรยาของเขาคงไม่แฮปปี้แน่ๆที่สามีจะช่วยน้องสาวผ่อนบ้าน ครับ ซึ่งจะทำให้เราผ่อนคนเดียวไม่ไหว ครับ
ตอนนี้อายุ29ปีเงินเดือน24000ทำงานมา2ปีแต่รับเงินสดเพิ่งเข้าบัญชีมา2เดือนแต่ก่อนหน้ามีการเสียภาษีตลอดค่ะและมีรายได้พิเศษอีกเดือน12000รับเงินสดหักภาษีนะที่จ่ายเหมือนกันค่ะตอนนี้ดูบ้าน2.2ลไว้ถ้าจะกู้จะผ่ายไหมค่ะไม่มีภาระอะไรค่ะ
+ถ้าวงเงิน 2.2 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี ลองคิดที่ดอกเบี้ยเผื่อๆไว้ที่ 7% ต่อปี ค่างวดจะราวๆ 14,700 + – ต่อเดือน
*จากรายได้รวมตามที่แจ้ง และไม่มีภาระผ่อนอะไร คาดว่าสินเชื่อพอมีโอกาสผ่านครับ แต่วงเงินอาจจะไม่ได้เต็มตามที่ต้องการหนะครับ คงต้องมีส่วนทุนของตัวเองด้วยเพื่อดาวน์บางส่วนครับ
……………
+สำหรับเอกสารประกอบ เพื่อแสดงแหล่งที่มาของรายได้ ถ้ามีสลิปแบบคาร์บอน ก็ถือว่าดีเลยครับ ถ้าไม่มีก็ต้องใช้หนังสือรับรองรองราย ได้ + บุคแบงค์บัญชีธนาคารที่เอาเงินเดือนเข้า +ใบ 50 ทวิ และใบแสดงการยื่นเสียภาษีเงินได้ สัก 1 – 2 ปี ย้อนหลัง ประกอบกันด้วยครับ
……………
+แนะนำให้ลองนำเอกสารเรื่องรายได้ของเรา (ตามรายละเอียดข้างต้นนี้) ไปลองคุย สอบถามเพิ่มเติมกับ ธนาคาร ธอส. หรือ ธนาคารอื่นๆ ดูก่อนก็ได้ครับ น่าจะได้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นครับ
เป็นพนักงานบริษัท อายุ 22 ปี รายได้ทั้งหมดรวม 25000 บาท แต่แสดงในสลิปเงินเดือนแค่ 14000 บาท เนื่องจาก บ.เลี่ยงภาษี มีภาระผ่อนรวมทั้งสิ้น 5600 บาท นอกจากนั้นไม่มีไม่มีภาระหนี้สิน
มีเงินเก็บทุกเดือน ไม่ทราบว่าจะพอกู้ได้ไหมคะ จะกู้ซื้อบ้านหลังแรก ราคาประมาน 1 ล้านบาท ตั้งใจผ่อน 30 ปีค่ะ
ขอสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ
1.อายุงาน
2.เงินเดือนรับสด หรือผ่านบัญชีครับ
3.ฐานเงินเดือน
4.ภาระผ่อนรวมทั้งสิ้น 5600 บาท เป็นยอดผ่อนต่อเดือน ใช่หรือไม่ครับ
5.มีผู้กู้ร่วม หรือไม่ครับ ถ้ามีขอทราบ อายุ ฐานเงินเดือน ยอดรับสุทธิ และภาระผ่อนที่มีต่อเดือน (ถ้ามี) ครับ
1. อายุงาน 1 ปี 6 เดือน
2. รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรี
3. ฐานเงินเดือน ตอนนี้ 25000 แต่เนื่องจากตำแหน่งเก่าคือ Admin การตลาด แต่ตอนนี้เลื่อนเป็นผู้ช่วยการตลาดจึงได้ปรับเงินขึ้นเป็น 25000 บาทแต่ส่วนต่าง 11000 บาท เข้าบัญชีธนาคารแยกเนื่องจากเลี่ยงภาษี จึงแสดงในสลิปเงินเดือนเพียง 14000 ค่ะ
4. ภาระผ่อนรายเดือนค่ะ แยกเป็น
1600 เหลืออีก 8 เดือน
3000 บาท เหลืออีก 8 เดือน
1000 บาท เหลืออีก 9 เดือน ค่ะ
5. ตั้งใจกู้คนเดียวค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ
+ถ้าวงเงิน 1.0 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี ลองคิดเผื่อๆที่ดอกเบี้ยประมาณ 7% ต่อปี ค่างวดจะราวๆ 6,7xx + – ต่อเดือน ครับ จากฐานรายได้รวม คาดว่าน่าจะพอผ่อนได้ครับ
…………………………
*แต่มีอยู่ 2 ประเด็นสำคัญ นะครับ
+เนื่องจากฐานรายได้ในสลิป ไม่มากนัก ก่อนกู้จึงควรเคลียร์ภาระบัตรให้หมด หรือให้เหลือน้อยที่สุดครับ
+อายุ ครับ ตามที่แจ้ง 22 ปี + ถือว่าอายุยังไม่มากครับ ทั้งนี้สินเชื่อบ้าน วงเงินจะค่อนข้างสูง ระยะเวลาผ่อนนาน เรื่องอายุของผู้กู้ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญเช่นกันครับ ถ้าให้แนะนำนะครับ ควรรอให้อายุไม่น้อยกว่า 24-25 ปี ขึ้นไปครับ ถ้าอายุน้อยกว่านี้ หรือถ้าอายุ 20 – 23 ปี ธนาคารอาจจะมองว่า หน้าที่ การงานยังไม่มั่นคง มีความเสี่ยงที่จะ ลาออก โยกย้าย เปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่ ซึ่งอาจจะกระทบกับการผ่อนชำระหนี้ได้ ครับ
…………………..
### สำหรับเรื่องเอกสาร แสดงแหล่งที่มาขอรายได้ ยอดที่ระบุในสลิป + รับเงินเดือนผ่านบัญชี อันนี้โอเคแล้วครับ แต่อีกส่วนที่เหลือ ที่ไม่อยู่ในสลิป ก็เป็นยอดที่ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ในส่วนนี้ ควรมีหนังสือรับรองรายได้ ที่ระบุยอดรวมทั้งหมด ใช้ประกอบกับสลิปเงินเดือน + บุคแบงค์บัญชีธนาคารที่เงินรายได้ทั้ง 2 ส่วนนี้เข้าบัญชี ย้อนหลังซัก 1 ปี ครับ
…………………..
### ตามปกติแล้วสินเชื่อบ้าน ธนาคารมักจะไม่ได้ให้วงเงินเต็ม 100% ของราคาบ้านนะครับ ดังนั้นก่อนอื่นเราจึงควรจะต้องมีเงินส่วนทุนของตัวเองอยู่แล้ว อย่างน้อยซัก 10-15% (หรือมากกว่านี้ยิ่งดีครับ) ของราคาบ้านที่จะซื้อ เพื่อใช้เป็นเงินในการ จองทำสัญญา/เงินดาวน์/ค่าประเมิน/ค่าธรรมเนียมเงินกู้/ค่าเบี้ยประกันภัยบ้าน ฯ ด้วยหนะ ครับ
***ระหว่างนี้แนะนำให้ผ่อนชำระสินเชื่อที่มีอยู่ให้ตรงตามกำหนด เพื่อรักษาประวัติเครดิต และผ่อนสินเชื่อเหล่านั้นให้หมด รวมถึงเก็บเงินไว้เพื่อเตรียมไว้เป็นเงินดาวน์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ นะครับ ในอีก 2 – 3 ปี ข้างหน้า อายุราวๆ 24 – 25 ปีขึ้นไป ค่อยกู้ซื้อบ้านก็ยังไม่สายครับ รายได้เราอาจจะมากขึ้น และเรามีเงินเก็บมากขึ้น อาจจะได้บ้าน ทำเลดีๆ หรือบ้านหลังใหญ่ขึ้น ก็มีโอกาสเป็นไปได้ ครับ
สนใจจะกู้ซื้อบ้านในกทม. ธนาคารมีบ้านในโครงการไหมครับ ในราคาไม่เกิน 1.2ล้านบาท เป็นพนักงานบริษัท เงินเดือน 14,000 บาท อายุ 24 ปี อายุงาน 2 ปี ตอนนี้อาศัยเช่าบ้านกับพ่อแม่ ไม่มีภาระหนี้สินครับ
มีเงินเก็บทุกเดือน ไม่ทราบว่าจะพอกู้ได้ไหมครับ
ลองคำนวณค่างวด ถ้าวงเงิน 1.20 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี ลองคิดเผื่อๆที่ดอกเบี้ย 7% ต่อปี ค่างวดจะตกราวๆ 8,000 + – ต่อเดือนครับ
*ตามเกณฑ์ปกติ ภาระผ่อนรวมทั้งหมด ไม่ควรเกิน 40 – 50% ในที่นี้ลองคิดที่ไม่เกิน 45% ของรายได้สุทธิต่อเดือนนะครับ จากฐานรายได้ที่แจ้ง ค่างวดบ้านที่จะกู้และภาระอื่นๆ(ถ้ามี) ไม่ควรเกิน 6,3xx + – ต่อเดือน ดังนั้นวงเงินที่อาจจะพอเป็นไปได้ (อ้างอิงจากฐานรายได้) ก็น่าจะราวๆ 850,xxx – ไม่เกิน 1 ล้าน ครับ ค่างวด 5,xxx – 6,7xx + – ต่อเดือนครับ ถ้าต้องการซื้อบ้าน/ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ที่ราคาเกินกว่านี้ คงต้องเตรียมเงินทุนส่วนตัวเผื่อๆไว้ในส่วนที่เหลือครับ
*อาจจะลองหาบ้านมือสอง ของธนาคารต่างๆ หรือตามเว็บประกาศขายบ้าน/ทาวน์เฮ้าส์ / ทาวน์โฮม อาจจะได้บ้านราคา ทำเล ที่ถูกใจ ครับ ลอง search หาในกูเกิ้ล ดูนะครับ
เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่ไม่ใช่ข้าราขการ รายได้คงเหลือสุทธิเงินเดือน รวมเงินเพิ่มพิเศษราย
เดือน 35000 บาท ต่อเดือน ไม่มีผ่อนอะไรอีก อายุ 58 ปี จะกู้ซื้อบ้านโครงการ วงเงิน
2,200,000.-บาท จะกู้ได้ไหมคะถ้าไม่มีคนกู้ร่วม ผ่อนเดือนละเท่าไร ตอนนี้จองบ้านแล้วคะ
ขอบคุณคะ เป็นบ้านหลังที่สอง บ้านหลังแรกผ่อน ธอส. หักบัญชีเงินเดือนๆ ละ 5,200.-
หลังแรกอยู่ต่างจังหวัดคะ หลังที่จะซื้อใหม่อยู่นนมบุรี ทำงานอยู่ แจ้งวัฒนะคะ
ตามปกติแล้วสินเชื่อบ้าน ระยะเวลาผ่อน เมื่อรวมกับอายุของผู้ขอกู้ โดยทั่วไปจะต้องไม่เกิน 60 ปี ครับ หรือเต็มที่ก็ 65 ปี ครับ เท่าที่ดูจากเว็บของ ธอส สูงสุดอายุของผู้กู้รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้จะต้องไม่เกิน 70 ปี ครับ
*จากอายุที่แจ้ง ระยะเวลาผ่อนจะเหลือไม่มากนัก ถ้าได้ถึง 60 ปี เวลาผ่อนได้ 2 ปี หรือ ถ้า 65 ปี เวลาผ่อนได้ 7 ปี หรือถ้า 70 ปี ระยะเวลาผ่อนจะเหลือ 11 – 12 ปี ครับ เมื่อระยะเวลาผ่อนสั้น ค่างวดจะค่อนข้างสูงครับ
*แอดมินไม่แน่ใจว่า ณ ปัจจุบัน ทาง ธอส. ให้ผู้กู่ผ่อนได้สูงสุดที่อายุเท่าไหร่นะครับ
*เคสนี้แนะนำให้รีบปรึกษาโดยตรงกับทาง ธอส นะครับ
เป็นลูกค้าธอส-กบข. ผ่อนมาแล้ว 6ปี ต้องการรีไฟแนนซ์กับธอสได้หรือไม่ เหลือยอดเงินกู้ประมาณ
900,000.
ถ้าเป็นลูกค้าเดิม ธอส. อาจจะลองขอปรับเงื่อนไข หรือขอปรับลดอัตราดกเบี้ย นะครับ ลองคุยดูครับ
*แต่ทั้งนี้ แอดมินก็ไม่แน่ใจว่า ธอส. จะกำหนดเพดานอายุ ของลูกค้าเดิม ไว้หรือไม่ หรือกำหนดไว้ที่เท่าไหร่นะครับ ลองสอบถามกับ ธอส ดูนะครับ
ที่ดินไม่ติดจำนองค่ะ แฟนรับเงินเบี้ยหวัดผ่านบัญชี ธ.ทหารไทย ทุกเดือนค่ะ ดิฉันอยู่ จ.ประจวบฯ ค่ะ ส่วนการยื่นกู้ ธ.ออมสิน กับ ธ.อาคารสงเคราะห์ ไม่ทราบอันไหนจะเหมาะกว่ากันคะ
ธ.อาคารสงเคราะห์ สาขาค่อนข้างน้อย อาจจะไม่สะดวก เบื้องต้นแนะนำลองเข้าไปคุยกับ ธ.ออมสิน มีสาขาเยอะครับ
สนใจกู้เพื่อสร้างบ้านชั้นเดียวในที่ดินของตัวเองค่ะ (ที่โฉนด) ต้องการกู้ วงเงิน 600,000 บาท ตัวเองทำธุรกิจส่วนตัวค่ะคือเปิดร้านคอมพิวเตอร์และจำหน่ายอุปกรณ์คอมฯ อีกร้านเป็นร้านกิ๊ฟช็อปและเครื่องสำอางค์ (บ้านเช่า) ส่วนแฟนเป็นข้าราชการเบี้ยหวัด รับเงินเดือนประจำสุทธิอยู่ที่ 8,400 บาทต่อเดือนทุกเดือนค่ะ รายได้จากร้านคอมและร้านกิ๊ฟช็อปรวมกันประมาณ 25,000 +- บาทต่อเดือนค่ะ (หลังหักค่าใช้จ่าย) ทั้งสองร้านมีทะเบียนพาณิชย์ค่ะ ร้านคอมเปิดมา 5 ปี กว่าส่วนร้านกิ๊ฟช็อปเปิดได้ประมาณ 3 ปีกว่าแล้วค่ะ ไม่ทราบหากต้องการกู้ร่วมกับสามี (จดทะเบียนสมรส) จะกู้แบบไหนดีค่ะแล้วมีโอกาสผ่านไหมคะ ใช้สิทธิ์สินเชื่อสำหรับลูกค้ากลุ่มบุคลากรภาครัฐและกลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝาก ได้หรือไม่คะ
ทั้งสองคนไม่มีภาระหนี้สินใดๆ ค่ะ อยากผ่อนสักเดือนละ 6000 – 6500 บาทต่อเดือนค่ะ โฉนดที่ดินเป็นชื่อแฟนค่ะ บัญชีเดินตลอดค่ะ แต่เป็นเงินหมุน ฝาก โอนค่ะ ทำรายรับรายวันทุกเดือนแยกเป็น 2 ร้านลงคอมฯ ตลอดค่ะ ส่วนรายจ่ายมีแค่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า 3500 ค่าโทรศัพท์ – อินเตอร์เน็ตค่ะ มีเงินฝากสำรอง “หนึ่งแสนบาท” ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำเกี่ยวกับการกู้และโอกาสในการอนุมัติด้วยนะคะ … ขอบคุณมากค่ะ
ขอทราบอายุ ของทั้ง 2 ท่านด้วยครับ
ดิฉันอายุ 32 ค่ะ ส่วนสามีอายุ 33 ค่ะ
+ถ้าที่ดินเป็นชื่อแฟน ก็ต้องกู้ร่วมกันกับแฟนครับ
+เนื่องจากแฟนไม่ใช่ข้าราชการประจำ เกรงว่าจะใช้สวัสดิการนั้นไม่ได้ครับ
+จากอายุที่แจ้ง และจากวงเงินที่ต้องการก็ไม่มากนัก คาดว่าถ้าได้วงเงินสินเชื่อ ค่างวดคงจะไม่เกิน 6 พัน/เดือนครับ
+มีเอกสารทะเบียนพาณิชย์ และมีสเตทเม้นท์ย้อนหลัง เอกสารในส่วนของรายได้กิจส่วนตัว ถือว่าโอเคแล้วครับ แนะนำเตียมเอกสารรายได้ของแฟน บุคแบงค์/สเม้นท์บัญชีธนาคาร ที่แฟนได้รับเงินเดือน ด้วยนะครับ
+กรณีถ้าอยู่ต่างจังหวัด หรืออำเภอ แนะนำลองปรึกษา หรือขอสินเชื่อกับ ธ.ออมสิน ก่อนก็น่าจะพอมีโอกาสผ่านนะครับ
*ที่ดิน ต้องไม่ติดจำนอง ครับ
…………………………….
…………………………………………………….
## โดยหลักการ กรณีกู้สร้างบ้าน ผู้กู้จำเป็นจะต้องมีส่วนทุน เงินทุนของตัวเองบางส่วน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีสำรองประมาณ 20-40% ของมูลค่าก่อสร้างบ้าน ครับ ที่เหลือ 60-80% ค่อยกู้จากธนาคารหนะครับ ##
*หรือถึงแม้ธนาคารจะให้กู้ได้ในสัดส่วนที่สูงถึง 80 – 90% ของมูลค่าก่อสร้างบ้านก็ตาม แต่สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน ทางธนาคารจะไม่ได้ให้เงินเราทีเดียวในวันที่ทำสัญญา และจำนอง หนะครับ ส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดให้เบิกเงินกู้ ตามความคืบหน้าในการก่อสร้างบ้านครับ จึงจำเป็นที่ผู้ขอกู้เพื่อสร้างบ้าน จะต้องมีส่วนทุนตัวเองบางส่วนแล้ว เพื่อใช้ในการจ้างช่าง และซื้อวัสดุมาก่อสร้างบ้านไปก่อน แล้วค่อยเบิกเงินกู้จากธนาคาร เป็นคราวๆไปครับ
…………………………………
เรื่องขั้นตอน :
+กรณีต้องการขอสินเชื่อ เพือสร้างบ้านบนที่ดิน ของตัวเองที่มีอยู่แล้ว จะมีขั้นตอน และเอกสารที่เพิ่มขึ้น มากกว่าการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ที่สร้างเสร็จแล้ว หนะครับ ดังนี้
1.มีแบบแปลน ของบ้านที่จะสร้าง รวมถึงใบประมาณการค่าก่อสร้าง
2.มีโฉนด (ควรจะต้องเป็นโฉนด ครับ ถ้าเป็น น.ส.3 หรือ น.ส.3ก. หรืออย่างอื่น เกรงว่าธนาคารอาจจะไม่รับ)
*โฉนดที่ดินที่จะสร้างบ้าน ควรจะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ ของผู้กู้ครับ
*ตอนยื่นเรื่อง ให้สำเนาด้านหน้าและด้านหลัง ของโฉนด และให้ จนท.ธนาคารดูฉบับจริงก็พอครับ โฉนดตัวจริงค่อยให้ธนาคาร ในวันจำนอง ครับ
3.ต้องมีใบขออนุญาตปลูกสร้าง
*ผู้ขออนุญาตก่อสร้าง ควรเป็นชื่อเดียวกันกับเจ้าของโฉนดที่ดิน โดยให้ขออนุญาต จาก อบต. หรือ เทศบาล หรือ สนง.เขต ที่ที่ดินที่จะสร้างบ้านตั้งอยู่
4.มีสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้าน/ที่พักอาศัย (ถ้ามี)
** ข้อ 1 / 2 / 3 จำเป็นต้องมี ส่วนข้อ 4 ถ้ามีก็จะดีมาก เอกสารเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการให้ธนาคารหรือบริษัทประเมิน ประเมินมูลค่า ที่ดิน(เปล่า) + ประเมินมูลค่าตัวบ้าน (ประเมินจากข้อ 1 และ 4) ครับ เพื่อจะได้ทราบว่า ที่ดิน รวมกับบ้าน เมื่อสร้างเสร็จ 100% จะมีมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งพนง.ธนาคารจะได้นำไปพิจารณาเรื่องสินเชือ รวมถึงกำหนดวงเงิน ต่อไปหนะครับ
**ขั้นตอน และการเตรียมเอกสาร เบื่องต้นจะประมาณนี้ครับ*
………………
**การเบิกจ่ายเงินกู้แต่ละครั้ง**
+เราก็แจ้งให้ธนาคารทราบว่าจะขอเบิกเงินกู้ ธนาคารก็จะแจ้งให้ ผู้ประเมินราคา ไปประเมินราคามูลค่างานก่อนสร้าง ก่อนทุกครั้งครับ ซึ่งการประเมินราคาแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่าย ค่าประเมิน ครับ ดังนั้นก่อนจะขอเบิกเงินกู้แต่ละครั้ง งานก่อสร้างต้องมีความคืบหน้า แล้วเสร็จไปเป็นส่วนๆครับ เช่น
1.ถมดิน ลงเสาเข็ม เทคาน หล่อเสา ขึ้นโครงหลังคา เทพื้น แล้วเสร็จ ค่อยเริ่มเบิกเงินกู้ครั้งที่ 1
2.ก่อ+ฉาบผนังห้อง มุงหลังคา ใส่หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน แล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งที่ 2
3.ปูกระเบื้อง วางสายไฟ ระบบไฟ ทาสี ทำรั้วกำแพงบ้าน ฯลฯ ทุกอย่างแล้วเสร็จ ค่อยเบิกเงินกู้ครั้งสุดท้าย
**คร่าวๆประมาณนี้ครับ จะได้ไม่ต้อง เสียค่าประเมิน หลายรอบครับ**
……………
***ส่วนขั้นตอน และรายละเอียด อื่นๆ แนะนำลองเข้าไปคุยกับธนาคาร ดูก่อนก็ได้ครับ
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับรายละเอียดและคำแนะนำค่ะ.
ด้วยความยินดีครับ